Call Sign เป็นสัญญาณเรียกขานที่ได้รับมาจาก ITU (International Telecommunication Union : องกรค์นานาชาติที่กำกับดูแลความถี่วิทยุ) โดยแต่ละประเทศนั้นจะขึ้นด้วย Prefix ที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถบอกได้ว่าเป็นนามเรียกขานของประเทศไหน ในช่วงแรกประเทศไทยเราเองเริ่มต้นที่ HS ถามว่าทำไมต้องเริ่มต้นด้วย HS (อ่านว่า โฮ-เทล เซีย-รา) จากประวัติที่ได้รับการบันทึก “ท่านอาจารย์อุดม จะโนภาษ” เขียนไว้ว่า “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน” เล่าให้ฟังว่าในขณะนั้นยังมีอักษรอื่นๆก่อนตัว HS แต่ที่ทรงเลือกอักษร HS เพราะจะให้มีความหมายว่า “ His Majesty The King Of SIAM ” ซึ่งในสมัยนั้นประเทศไทยยังเรียกว่า SIAM อยู่เวลาเรียกขานวิทยุทีนึง ก็จะได้ยินการถวายความเคารพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยจึงมีสัญญาณเรียกขานว่า HS ตั้งแต่บัดนั้นมา เมื่อทุกท่านได้ทราบความเป็นมาแล้ว จงภูมิใจเถิดครับที่ได้มีโอกาสใช้ Prefix ที่มีความหมายดีๆแบบนี้
สำหรับนักวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย โดยใช้รูปแบบที่ระบุ ในข้อบังคับวิทยุระหว่างประเทศ และกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
- HS n 1
- HS n 12
- HS n 123
จากรหัสข้างต้นนั้น มีความหมายตาม อักษรดังนี้
- HS หมายถึง ระบุว่าเป็น call sign ที่มาจากประเทศไทย
- n หมายถึง ตัวเลข 0 ถึง 9 ใช้ระบุว่าอยู่ในเขตพื้นที่ใดของประเทศไทย
- พยัญชนะ 1 ตัว หรือ 2 ตัว หรือ 3 ตัว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1 – ใช้สำหรับระดับ บุคคลสำคัญระดับสูงของประเทศ
12 – ใช้เรียงตามลำดับจาก AA – ZZ ยกเว้น AA – AZ ซึ่งสำรองไว้สำหรับสถานีกรณีพิเศษ เช่น สถานีทวนสัญญาณ (beacon), สถานีของชมรม หรือสมาคม (Club Station) และ สถานีชั่วคราวเฉพาะกิจ และยกเว้น CQ, HS
123 – ใช้เรียงตามลำดับนามเรียกขานทั่วไปโดยเรียงจาก AAA – ZZZ ยกเว้น DDD ,QAA – QZZ , SOS และ TTT
โดยปัจจุบันนามเรียกขานสำหรับนักวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทยล่าสุด คือ E2 (อ่านว่า เอ็ค-โค่ ทู) และใช้เรียงลำดับเหมือนกับ HS ที่กล่าวไปแล้วข้างต้นเช่นเดียวกัน นักวิทยุสมัครเล่นทุกท่านจงภูมิใจได้ว่า ในทุกๆครั้งที่ออกอากาศวิทยุสื่อสารและกล่าว call sign เปรียบเสมือนเราทุกคนได้สดุดีและถวายความเคารพแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราครับ
ทีมงาน Spenderclub